วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

Review Sianlon Aquatic Arowana ประเทศมาเลย์เซีย

สวัสดีครับเพื่อนๆ คนรักปลาทุกคนครับ วันนี้ผมเองกำลังสนใจฟาร์มจากมาเลย์เซียแห่งนึงอยู่ เป็นฟาร์มที่มีคนพูดถึงเยอะมาก แต่เหมือนว่าหลายท่านอาจจะยังไม่รู้เรื่องของความเป็นมาเลยในฟาร์มนี้ ผมเลยไปหาข้อมูลมาเท่าที่จะหามาได้ครับซึ่งได้ข้อมูลมาจากตัวแทนของ ที่อยู่ในประเทศไทยนี่เองครับ เค้าคือคุณแชมป์ จาก Arowanamania นี่เอง ฟาร์ม Sianlon นั้นได้เริ่มเปิดฟาร์มตั้งแต่ ปี คศ 197x (โอ้ว 20 - 30 ปีเชียวหรอเนี่ย)ซึ่งเริ่มทำกิจการปลาจากปลาหางนกยูง และ เป็นเจ้าแรก จด CITES ในมาเลย์
Sianlon Aquatic



ปลาเด่นของฟาร์มนี้ได้แก่
-Malaysia Golden(crossBack)
-First Grade Red
-High Back Golden
-Second Grade Red
-Green Arowana
-Silver Arowana

ขณะนี้ ทาง Sianlon Aquatic เองได้ส่งออกปลาอโรวาน่าเกรดสูงไปยังประเทศ ไทย ญี่ปุ่น แคนนาดา และอื่นๆอีกมากมาย

ข้อมูลจาก http://www.arowanamania.com/
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

Imperial Breeding Farm Arowana

ถ้าพูดถึงปลาอโรวาน่าตัวสีทอง เงาๆ สวยๆ หรือปลาแดงที่สีจัดจ้าน Super Red แล้วหละก็คงมีหลายท่านนึกถึง ฟาร์มจากสิงคโปรเจ้านี้แน่ๆครับ Imperial Breeding Farm จาก blog ที่แล้วได้เห็นไปแล้วถึงความสวยงามที่ทาง ShowaArowana และ Arowana King ได้นำเข้ามากันบ้างแล้ว คราวนี้มาดูกันดีกว่าครับว่าความเป็นมา Imperial Breeding Farm เค้ามายังไงกัน

Imperial ได้ก่อตั้งขึ้นโดยMr. Vincent Chong (วินชง) ในปี 2003 (7 - 8 ปีแล้วสินะเนี่ยโอ้ว) ได้การรับรองฟาร์มคุณภาพ Asian Arowana จาก CITES เพื่อการส่งออกไปทั่วโลก


 Mr. Vincent Chong เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงทางด้านปลา อโรวาน่า (arowana) มาก ในเรื่องของปลาอโรวาน่าแดง Super Red, ซึ่งมีการสร้างแบรนเฉพาะขึ้นมาเป็นของฟาร์มตนเอง จนทำให้เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลก สำหรับผู้ที่ชอบอโรวาน่าแล้วคงไม่มีใครไม่รู้จัก

และตอนนี้ทาง Imperial Breeding Farm ความได้มีชื่อในการพัฒนา อีกหลายสายพันธุได้แก่ Xback Arowana , RTG , Banjar Red ซึ่งได้จดทะเบียนกับทาง CITES ใน สิงคโปร / มาเลเซีย และ อินโดนิเซีย
ซึ่งที่กล่าวข้างต้นมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นอโรวาน่าที่มีคุณภาพสูงทั้งสิ้น

VIP GOLDEN HEAD



 Vip red



บางอย่างถ้า Review ผิดพลาดอันใดต้องขออภัยด้วยนะครับ ^^ ครั้งหน้าอาจจะนำรายละเอียดผู้นำเข้ามาให้ชมกันนะครับ
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

Update ราคาอโรวาน่าของ Imperial Breeding Farm

Imperial Breeding Farm นำเข้าโดยคุณเติ้ง ShowaArowana
ได้นำข้อมูลอ้างอิงมาจาก เว็บ Aro4u ครับ

1. VIP Cross Back Golden (ทองมาเลย์เกรดเริ่มต้น ราคาที่ไซส์แรกซื้อ 5"-6" ประมาณ 3x,xxx)
(ทองมาเลย์เกรดเริ่มต้น และ/รวมถึง ทองมาเลย์เกรดธรรมดาทั่วไป) – ที่ไซส์แรกซื้อขนาด 5”-6” มีการเปิดของเกล็ดแถวที่ 5 ให้เห็น แต่อาจจะไม่เต็มแผ่นเกล็ด และอาจยังไม่มีการเปิดของเกล็ดละเอียดให้เห็น (ถ้าข้ามหลัง หรือหัวทอง ในวัยนี้อาจเป็นไปได้ว่าจะมีการถอยคืนเพราะเป็นการข้ามขั้น)2. VIP Full Gold Cross Back (ทองมาเลย์คุณภาพสูง ราคาไซส์แรกซื้อ 5"-6" ประมาณ 4x,xxx - 5x,xxx บาท)
(ทองมาเลย์คุณภาพสูง และ/รวมถึง ทองมาเลย์คุณภาพสูงจากฟาร์มอื่นๆ) – ที่ไซส์แรกซื้อขนาด 5”-6” จะมีการเปิดของเกล็ดแถวที่ 5 แบบชัดเจน ตัวสวยจะเปิดเต็มแผ่นเกล็ด และมีการเปิดของเกล็ดละเอียดให้เห็น แต่อาจจะยังไม่หมดจดเต็มอนู เต็มพื้นที่ (สำหรับปลาเกรดนี้ แม้หากมองจากด้านบนเห็นว่ามีการข้ามหลัง หรือหัวทองแล้ว ก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้ว่าจะมีการถอยคืนเพราะยังถือเป็นการข้ามขั้นอยู่)




3. VIP 24K Premium Grade Cross Back Golden (ทองมาเลย์เกรดคัดพิเศษ ราคาไซส์แรกซื้อ 7"-8" ประมาณ 6x,xxx บาท) และ
(ทองมาเลย์เกรดคัดพิเศษ และ/รวมถึง ทองมาเลย์เกรดคัดพิเศษจากฟาร์มอื่นๆ) – ที่ไซส์แรกซื้อขนาด 7”-8” ขนาดตัวจะใหญ่ขึ้น ให้เห็นคุณสมบัติชัดเจนขึ้น แน่นอนว่าปลา “ระดับเกรดพิเศษนี้” จะต้องมีการเปิดของเกล็ดแถวที่ 5 แบบชัดเจน เต็มแผ่นเกล็ด มีการเปิดของเกล็ดละเอียดแบบชัดเจนไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องส่อง ไม่ต้องก้มๆ เงยๆ เห็นได้แบบอยู่ตรงหน้า พร้อมด้วยการเริ่มข้ามหลัง และมีคุณสมบัติหัวทองบางส่วน 10-30% (สำหรับปลาเกรดนี้โอกาสถอยคืนจะมีน้อยลงมากเพราะถือเป็นการได้คุณสมบัติมาแบบเป็นขั้นเป็นตอน ไม่ข้ามขั้น)




4. VIP Golden Head Cross Back (ทองมาเลย์ระดับหัวทอง ราคาไซส์แรกซื้อ 7"-8" ประมาณ 9x,xxx - 1xx,xxx บาท ขึ้นอยู่ระดับเนื้อที่หัวทองบนหัว)
(ทองมาเลย์ระดับหัวทอง และ/รวมถึง ทองมาเลย์ระดับหัวทองจากฟาร์มอื่นๆ) – ที่ไซส์แรกซื้อขนาด 7”-8” ขนาดตัวจะใหญ่ขึ้นไม่ต่างจากระดับเกรดพิเศษ (GH Xback ปัจจุบันถือเป็นทองมาเลย์ระดับสูงสุดของแต่ละฟาร์ม) ให้เห็นคุณสมบัติชัดเจนขึ้น แน่นอนว่าปลาที่สูงกว่า “ระดับเกรดพิเศษ” อย่างนี้จะต้องมีการเปิดของเกล็ดแถวที่ 5 แบบชัดเจน เต็มแผ่นเกล็ด + เกล็ดละเอียดเปิดเต็มทุกอนู + ข้ามหลัง + คุณสมบัติหัวทองไม่น้อยกว่า 30% (ปลาเกรดนี้ถือเป็นปลาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามตัวปลา ไม่ใช่ตามใบเซอร์ จะมีโอกาสถอยคืนน้อยมากทีสุดแม้จะมาจากสภาพแวดล้อมขาวแล้วนำมาเลี้ยงในตู้สภาพแวดล้อมดำภายหลัง)







ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนี้ถือเป็นเพียงแนวทางการดูปลาในทองมาเลย์ในสาย VIP แต่ละระดับนะครับ (รวมถึงโดยทั่วๆ ไปจากฟาร์มอื่นด้วย) อย่าลืมว่าอย่านำไปใช้หรือยึดถือเป็นบรรทัดฐาน เพราะหลายๆ ครั้งหลายๆ เวลาสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็ไม่มีอยู่จริง “ความพิเศษ” ที่เกิดขึ้นก็แค่เพียงตามชื่อที่ระบุในใบรับรองสายพันธุ์เท่านั้น โดยที่ตัวปลาไม่ได้ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด


ที่มา Aro4u & ShowaArowana
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/





วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553

หลอดUV หลอดฆ่าเชื้อ UV ดีอย่างไรกับปลาของเรา

หลักการใช้หลอดอัลตราไวโอเล็ตหรือหลอดยูวี (UV)ให้ได้ผล คือ ความเข้มของแสงยูวี (มีหน่วยเป็น mW/cm2 -มิลลิวัตต์ต่อตารางเซนติเมตร) ต้องมากเพียงพอที่จะฆ่าสิ่งมีชีวิต ที่ก่อให้เกิดโรค เช่น ไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว เป็นต้น ที่มาพร้อมกับน้ำที่ผ่านมาในเครื่องยูวี

สำหรับความเข้มข้นหรือ “โดส” (มีหน่วยเป็น mW-s/cm2-มิลลิวัตต์-วินาทีต่อตารางเซนติเมตร) ที่ต้องใช้จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละชนิดของสิ่งมีชีวิตที่ก่อให้เกิดโรค ชนิดที่ตัวเล็ก ตายง่ายก็ใช้โดสต่ำ เช่น พวกแบคทีเรีย ไวรัส (ไวรัสบางชนิดต้องใช้โดสสูงมาก) ชนิดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ใช้โดสสูงตามขึ้นมา เช่น พวกโปรโตซัว ที่ทำให้เกิดโรคจุดขาว
ตัวอย่าง โดส ที่ใช้กำจัด สาหร่าย แบคทีเรีย ไวรัส ยีสต์ ส่วนใหญ่ และโปรโตซัวขนาดเล็กบางชนิดไม่ควรต่ำกว่า 30 mW-s/cm2

โดสที่ใช้กำจัดตัวอ่อนของโปรโตซัว โรคจุดขาว อยู่ที่ 200-300 mW-s/cm2
เมื่อผู้ใช้ต้องการทราบว่าแล้วจะเลือกใช้อย่างไร จริงๆแล้วคำตอบนี้ต้องมาจากผู้ผลิต เพราะผู้ผลิตต้องเป็นผู้กำหนดอัตราการไหลของน้ำ มาพร้อมกับเครื่องว่าควรใช้อัตราการไหลผ่านที่เท่าไรในการกำจัดเชื้อโรคชนิดต่างๆ แต่สวนใหญ่แล้วจะพบว่ามักจะไม่มีให้มา มีแต่อัตราการไหลบนกล่องซึ่งมากมายมหาศาล ซึ่งเป็นอัตราที่มักจะใช้สำหรับการกำจัดแบคทีเรียที่ตายง่ายๆ เช่น พวก E. coli หรือสาหร่ายในน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำเขียว ซึ่ง โดสที่ใช้แค่ 0.6-20 mW-s/cm2 เท่านั้น
อีกทั้งเครื่องยูวี ที่ผลิตมาแต่ละบริษัทจะมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน ซึ่งความแตกต่างขึ้น กับ ชนิดของหลอด เช่น หลอดความดันต่ำ หรือหลอดแรงดันปานกลาง ความยาวของหลอด วิธีการออกแบบให้น้ำผ่านหลอด ความหนาของชั้นน้ำที่ไหลผ่านหลอด เป็นต้น ปัจจัยเหล่านี้เป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพของเครื่องยูวี และอัตราการไหลที่เหมาะสมสำหรับการกำจัดเชื้อโรคชนิดต่างๆ
แล้วจะทำอย่างไรหากผู้ผลิตไม่ได้ให้ตัวเลขอัตราการไหลของน้ำผ่านหลอดที่ระดับต่างๆในการกำจัดเชื้อโรคแต่ละชนิดมาให้ คงจะต้องตอบว่า ต้องประเมินค่าอย่างกลางๆ และเผื่อโดสเอาไว้
ตัวอย่างเช่น หลอด ขนาด 25 วัตต์ อัตราการไหลของน้ำไม่ควรมากกว่า 650 ลิตรต่อชั่วโมง จึงจะมีโดสเท่ากับ 30 mW-s/cm2 นั่นหมายความว่าจะช่วยกำจัดสาหร่าย แบคทีเรีย ไวรัส ยีสต์ ส่วนใหญ่ และโปรโตซัวขนาดเล็กบางชนิดได้
ในกรณีที่คุณระบุมาว่ามีหลอดขนาดเพียง 15 วัตต์ นั้น และใช้อัตราการไหลถึง 1,200 ลิตรต่อนาทีนั้น เท่ากับคุณไม่ได้ใช้ประโยชน์จากหลอดดังกล่าวเลย
ตู้ขนาด 1,200 ลิตร ที่เหมาะสมควรจะใช้ หลอดขนาด 30 วัตต์ ที่อัตราการไหลผ่านของน้ำผ่านหลอดยูวีไม่มากกว่า 850 ลิตรต่อชั่วโมง ซึ่งสามารถกำจัด สาหร่าย แบคทีเรีย ไวรัส ยีสต์ ส่วนใหญ่ และโปรโตซัวขนาดเล็กบางชนิดได้ ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขกลางๆ เนื่องจากขึ้นกับคุณภาพของเครื่องที่คุณซื้อมาด้วยครับ
วิธีการคำนวณนั้นไม่ง่ายครับ สูตรตามนี้ครับ

UV dose = (UV intensity) (exposure time) (transmittance factor)




ข้อควรทราบ

1. หลอดยูวี ถึงแม้จะมีแสงอยู่แต่ประสิทธิภาพในการกำจัดเชื้อโรคจะลดไปตามอายุหลอด โดยทั่วไป 8 เดือน ควรเปลี่ยนใหม่

2. น้ำที่ไหลผ่านหลอดยูวีต้องมีความใสสะอาด เพราะจะตะกอนหรือน้ำที่เหลืองจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง

3. ในกรณีที่มีกระเปาะแก้ว (Quartz sleeve) กั้นหลอดกับน้ำต้องทำความสะอาดกระเปาะแก้วบ่อยๆ

ที่มาจาก http://www.bims.buu.ac.th/
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

รับมือเมื่อไฟฟ้าดับ ตู้อโรวาน่า

พร้อมรับสถานการณ์ไฟดับ (รูปประกอบยังไม่ครบ)โดยปกติแล้วเราไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องไฟฟ้าดับเลยนะครับ ถ้า...เรามีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นประจำเรามีปลาในปริมาณที่เหมาะสมไม่มากหรือหนาแน่นจนเกินไป

เราไม่มีปลาที่ต้องการปริมาณอ็อกซิเจนละลายในน้ำสูง เช่น ปลากระเบน หรือแคทฟิชราคาแพงเป็นต้น
โดยปกติแล้วปลาทั่วไปสามารถทนอยู่ในตู้ที่ไม่มีการหมุนเวียนของน้ำและไม่มีการให้อากาศได้นานพอควร

ถามว่าแล้วนานแค่ไหน ก็ตอบได้ว่านานกว่าที่เราคิดนะครับ ดังนั้นจริงๆแล้ว เมื่อไฟฟ้าดับเราก็ไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้น แค่รอให้ไฟฟ้ามาเท่านั้น
ถ้าเราต้องการเตรียมพร้อม สิ่งของจำเป็นสำหรับเวลาไฟดับคือ

1 ปั้มลมสำรองไฟ โดยทั่วไปจะเป็นปั้มที่มีแบตเตอรี่พ่วงอยู่ภายใน ในกรณีที่ไฟฟ้าดับระบบจะสลับไปใช้ไฟจากแบตเตอรี่แทน ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย จึงควรตรวจเช็กสภาพของแบตเตอรี่ให้พร้อมเสมอ โดยการดีสชาร์ทแบตเตอรี่ทุกๆ2-3เดือน เพียงดึงปลั๊กไฟออกแล้วให้ปั้มทำงานโดยแบตเตอรี่ทิ้งไว้ 15-30นาทีแล้วเสียบปลั๊กกลับเข้าที่ และควรเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ทุกๆ 1-1.5ปี

2 ปั้มลมแบบใช้ถ่านไฟฉาย ควรมีติดบ้านไว้อย่างน้อยตู้ละ1เครื่อง เป็นอุปกรณ์ฉุกเฉินที่จำเป็นมากชิ้นหนึ่งทีเดียว หลังจากที่ใส่ถ่านลงไปแล้ว ในเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้ถ่านไฟฉายคุณภาพสูงปั้มลมจะจ่ายลมได้นานถึง 48ชั่วโมงเลยทีเดียว


3 ปัจจุบันมีการประดิษฐ์คิดค้นเครื่องสำรองไฟอัตโนมัติซึ่งเป็นเหมือนตู้ไฟแบบหนึ่งประกอบด้วยแผงอิเลคโทรนิก และตัวควบคุมการปล่อยกระแสไฟจากแบตเตอรี่ โดยสามารถสำรองไฟให้กับระบบของตู้ปลาหรือบ่อปลาได้ทั้งระบบ ทั้งปั้มน้ำ ปั้มลม ความสามารถในการสำรองไฟก็ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ แต่ยังคงมีราคาที่สูงมากจึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในบ้านที่มีตู้ปลาจำนวนน้อย แต่เหมาะกับบ่อปลาหรือฟาร์มปลามากกว่า

อาการไฟฟ้าดับแยกเป็น 2ประเภท


1 ไฟฟ้าดับโดยการไฟฟ้าแจ้งล่วงหน้า ในกรณีนี้ง่ายมาก ก่อนวันไฟดับ 2-3 วันให้ทำการงดอาหารปลาทั้งหมด และทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำครั้งละ 20% ในวันก่อนวันไฟดับ 2-3วัน และเปลี่ยนน้ำอีกครั้งก่อนวันไฟดับ1-2วันอีก 15-20% ทั้งหมดนั้นทำเพื่อรักษาระดับความสะอาดของน้ำและเพิ่มปริมาณอ็อกซิเจนนั่นเอง

การงดอาหารล่วงหน้า เพื่อเป็นการลดของเสียในระบบ และการเปลี่ยนถ่ายน้ำก่อนไฟดับ เพื่อเป็นการกำจัดของเสียออกจากระบบ เพื่อเพิ่มคุณภาพน้ำให้ปลาทนต่อสภาวะการไม่มีน้ำหมุนเวียนและไม่มีการเติมอากาศนั่นเอง การทำแบบนี้สามารถทำให้ปลาทนอยู่ได้อย่างน้อย 5ชั่วโมง แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับปริมาณปลาและขนาดของตู้ เมื่อเราทำการเปลี่ยนน้ำในตู้ปลาแล้ว เมื่อไฟดับปั้มสำรองไฟทำงาน ทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา หรือเราจะจุ่มหัวทรายเพิ่มโดยใช้ปั้มลมแบบถ่านไฟฉายช่วยอีกตัว ก็ได้ หรือเพิ่มเข้าไปในช่องกรองก็สามารถรักษาระบบกรองไว้ได้ระดับหนึ่ง

2 ไฟฟ้าดับโดยอุบัติเหตุไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ในกรณีแบบนี้ค่อนข้างฉุกละหุกทีเดียว เราคงไม่สามารถเปลี่ยนถ่ายน้ำได้ ดังนั้นเราจึงต้องพึ่งปั้มลมสำรองไฟ ซึ่งจะใช้ได้ดีหรือไม่ก็อยู่ที่การบำรุงรักษาของเราเองครับ

สุดท้ายก็ต้องพึ่งปั้มลมแบบใช้ถ่านด้วยก็ดี วางไว้ข้างๆตู้ ถ้ามีปัญหาก็สามารถหยิบใช้ได้ทันที

* เราไม่ควรใช้ อ็อกซิเจนผงในการเพิ่มอ็อกซิเจนในน้ำนะครับ เป็นอันตรายสำหรับอโรวาน่าอย่างยิ่ง*

ที่มาจาก http://www.arowanasociety.com/index.php?name=knowledge&file=readknowledge&id=13
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

เริ่มจำหน่ายแล้วกับ BANGKOK AROWANA BREEDING FARM

ในวงการฟาร์มปลาอโรวาน่าในไทยเริ่มคึกคักเพราะเริ่มผลิตได้เองแล้ว วันนี้เลยนำรูปบางส่วนมาให้ชมว่า BANGKOK AROWANA BREEDING FARM ได้ทองมาเลย์ที่ผลิตออกมาเองสีสันเป็นอย่างไร และรูปร่างดีแค่ไหน ลองดูกันครับ









เป็นยังไงบ้างครับ กับปลาที่เกิดจากความมุ่งมั่นและชื่นชอบของคนไทยคนนึง และหวังไว้ว่า Arowana หรือที่คนไทยเรียกกันติดปากว่าปลามังกร (อโรวาน่า) นั้นเพื่อนๆคนไทยจะสามารถนำมาครอบครองกันง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องนำเข้าอโรวาน่าอย่างที่ผ่านมาอีก

ที่มา http://www.bangkokarowana.com/
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

ฟาร์มอโรวาน่า อันดับต้นๆของไทย BANGKOK AROWANA BREEDING FARM

ความเป็นมา
ด้วยรักและความท้าทาย จุดเริ่มต้น BANGKOK AROWANA BREEDING FARM ประมาณปี 48 มีเพื่อนชาวไต้หวันที่มาอยู่ในเมืองไทย ได้ถูกเชิญไปรับตำแหน่งที่ประเทศจีน แต่เพื่อนผู้นี้ไม่สามารถที่จะนำพาปลา AROWANA ซึ่งเลี้ยงเอาไว้ 2 ตัว

(ทองมาเลย์และแดงอินโด) ไปที่ประเทศจีนได้ จึงได้มอบให้ผมเป็นผู้รับภาระดูแลต่อ พร้อมกับหนังสือเกี่ยวกับปลา AROWANA อีกจำนวนหนึ่ง ครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นปลา (แดงและทอง) ก็รู้สึกชื่นชอบและเริ่มหลงไหล นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยรู้จักปลา AROWANA มาก่อนเลย

เมื่อได้ปลามาอยู่ในความดูแลแล้วก็เริ่มศึกษาจากหนังสือปลา ยิ่งอ่านก็ยิ่งเพลิดเพลิน มีอะไรที่ไม่เข้าใจ ก็จะโทรถามเพื่อนที่ประเทศจีน หรือ ไม่เพื่อนก็จะโทรมาถามเกี่ยว กับเรื่องปลาทั้ง 2 ตัว เพื่อนห่วงเพราะเป็นมือใหม่หัดเลี้ยง นานวันเข้าปลาที่เลี้ยงก็เริ่มซื้อเพิ่มมากขึ้น ตู้ปลาก็เริ่มมากขึ้น บ่อปูนก็เริ่มมีมากขึ้น ถึงขนาดมีโครงการจะทำบ่อปูนขนาดใหญ่ บนดาดฟ้าที่บ้าน แต่ไม่ได้ทำเพราะกลัวดาดฟ้ารับน้ำหนักไม่ไหว

ปี 50 มีผุ้ใหญ่ท่านหนึ่งพูดไว้ว่า ปลา AROWANA เป็นปลาที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ทำไมเราไม่คิดที่จะเพาะพันธุ์ ถ้าสำเร็จเราก็จะไม่ต้องเสียเงินตราให้กับต่างประเทศ นับว่าเป็นการช่วยประเทศชาติอีกทางหนึ่งด้วย คำพูดเพียงแค่นี้เองทำให้ผมมุ่งมั่นที่จะเริ่มเพาะพันธุ์และเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ ประกอบกับได้รู้จักกับ คุณไพโรจน์ และทีมงาน ซึ่งได้ช่วยคัดสรร พ่อ - แม่ พันธุ์ปลาทองมาเลย์ ทองอินโด และ แดงอินโดมาให้ ซึ่งผมขอขอบคุณ คุณไพโรจน์ และทีมงาน มา ณ ที่นี้ด้วย

ปี 51 เริ่มหาซื้อที่ดิน จุดแรกคือ ปทุมธานี - นครนายก เพราะมีแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ และมีน้ำตลอดทั้งปี ขับรถจากอ่อนนุช เช้าไปเย็นกลับ เกือบ 1 เดือน เริ่มเหนื่อยและเริ่มท้อ เพราะที่สวย น้ำดี ที่ดินแพงมากๆ ถ้าจะหาที่ดินถูกหน่อย การคมนาคมก็ไม่สะดวกและผมต้องขับรถทุกวัน เริ่มมีความรู้สึกว่าไกลเกินไป ที่จะต้องขับรถ เช้าไป - เย็นกลับ จุดที่สองคือ ราชบุรี เพราะว่า ราชบุรี คือแหล่งเพาะพันธุ์ปลาสวยงามที่ทุกคนรู้จัก ผมขับรถ ไป - กลับ เพื่อหาที่ดิน เพียงแค่อาทิตย์เดียวก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายไม่ไหวแล้ว สุดท้ายลองขับรถวิ่งทาง ถ.อ่อนนุช แปดริ้ว ไปเรื่อย ๆ ขับรถทุกวันแต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะว่าถนนทั้งสองข้างทาง มีต้นไม้และนาข้าวเขียวขจีไปหมด เริ่มรุ้สึกชอบและสดชื่น ที่ได้เห็นทิวทัศน์ตามเส้นทาง ผลสุดท้ายมาตกลงได้ที่ดินที่ ต.บางเตย อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ไกลจากบ้านที่อยู่ประมาณ 40 กม. ขับรถไป - กลับ ไม่เหนื่อย ราคาที่ดินก็ไม่แพงมาก จำนวน 11 ไร่ แต่แหล่งน้ำไม่ค่อยดี ในใจคิดว่า แล้วค่อยขุดเจาะน้ำบาดาลมาใช้ทดแทน

24 มีนา 51 ตกลงซื้อขายที่ดินเรียบร้อยหน้ากว้าง 60 เมตรติดถนนราดยาง ลึก 320 เมตร 3 ไร่ ด้านหน้าคือบ่อเลี้ยงกุ้ง พื้นที่ด้านหลังที่เหลือปลูกข้าวมีต้นข้าวสูงประมาณ 1 ฟุตเขียวขจีไปหมด คนโบราณว่าไว้ว่าห้ามทำลายพระแม่โพสพ ผมจึงรอให้เจ้าของเดิมเก็บเกี่ยวนาข้าวให้เรียบร้อยเสียก่อน
เดือนมิถุนา 51 เริ่มถมบ่อเลี้ยงกุ้งเดิมจำนวน 2 ไร่ เพื่อที่จะสร้างโรงเรือนพร้อมเป็นที่พักของพนักงาน ถัดจากโรงเรือนด้านขวามือ ขุดบ่อ 15 X 30 เมตร จำนวน 2 บ่อ ด้านซ้ายมือขุดบ่อเล็ก 10 X 20 ลึก 2 เมตร จำนวน 5 บ่อ ตรงกลางเป็นถนน 8 เมตร ปลายถนนขุดบ่อเก็บน้ำ 40 X 40 ลึก 7 เมตร เนื้อที่ด้านในสุดอีก 5 ไร่ ยังไม่ใช้ ช่วงเดือน 2 เดือนเป็นช่วงฤดูฝน งานก่อสร้างโรงเรือนและงานขุดบ่อ รวมทั้งงานรั้วล้อมรอบ ดำเนินไปได้ช้ามาก กว่าจะแล้วเสร็จ ก็เกือบสิ้นเดือนตุลาคม



ที่มา http://www.bangkokarowana.com/
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553

เกล็ดอโรวาน่า หรือการเปิดเกล็ดและสี Arowana color?


ลองมาทำควรรู้จักเกี่ยวกับกายวิภาคของปลาอะโรฯกันนะครับ เพื่อที่ใช้ในการสื่อสารกับเพื่อนฝูงผู้มีใจรักในอะโรฯเช่นเดียวกัน
เครื่องใหญ่ หมายถึง ปลาที่มีครีบต่าง ๆ ใหญ่ โดยปกติแล้วเรานิยมปลาเครื่องใหญ่มากกว่าปลาเครื่องเล็ก อย่างไงก็ตาม..ความใหญ่ของเครื่องก็ไม่ควรใหญ่จนเกินตัวจนดูประหลาดไป
เกล็ด ปลาอะโรฯจะมีเกล็ดทั้งหมด 6 แถว แถวที่ 6 คือเกล็ดที่อยู่บนหลังของอะโรฯ วิธีนับแถวเกล็ดของอะโรฯ ง่ายที่สุดคือมองหาเกล็ดแถวที่มีจุดอยู่กลางเกล็ด เกล็ดแถวนั้นคือเกล็ดแถวที่ 3

เกล็ดเปิด จะใช้กับปลาตระกูลทอง หมายถึง การที่เกล็ดของปลาเปลี่ยนสีจากสีด้านเข้มเป็นสีทอง โดยปกติแล้วทองอินโดจะเกล็ดเปิดแค่เกล็ดแถวที่ 4 หรือ แถวที่ 5 บางส่วน

 แม้จะมีอายุมากแล้วในขณะที่ทองมาเลย์ที่เกล็ดละเอียดเปิดไม่หมดทั้งที่อายุมากแล้ว นั้นก็หมายถึงทองมาเลย์ตัวนั้นมีความเป็นไปได้ที่เกล็ดแถว 6 จะเปิดไม่ทั้งหมด คืออาจจะมีการเปิดของเกล็ดแถว 6 บางเกล็ด แต่บางเกล็ดเปิดไม่หมด หรือว่าเกล็ดแถว 6 เปิดแค่ขอบ แต่วงในเปิดไม่หมด

นายแบบก็คือเจ้า "ทองสุข" จะเห็นว่าแม้เป็นทองอินโดที่มีอายุมากแล้ว คือมีอายุ 8 ปี(2546) แต่จะเห็นว่าไม่มีการเปิดของเกล็ดละเอียดเลย แม้ว่าเกล็ดแถว 5 จะมีการเปิดประปลายบ้างก็ตาม

ซึ่งจุดนี้จะต่างกับทองมาเลย์ จากรูปแรกก็คือเจ้า "สุวรรณ" แม้จะมีอายุเพียงปีกว่า ๆ (2546) เกล็ดละเอียดก็เปิดเกลี้ยงหมดจด ทำให้ผู้เลี้ยงสบายใจได้ว่า ในอนาคตเจ้าสุวรรณก็จะเป็นทองมาเลย์ที่ข้ามหลังได้สวยงามแน่นอน

ปลาที่เครื่องใหญ่มาก ๆ ใช่ว่าจะดูดีทุกตัว ถ้าใหญ่เกินไปก็ดูประหลาดเสียมากกว่า ไม่สง่างามเสียด้วยซ้ำไป


ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

ทำเนียบเว็บ อโรวาน่า ที่น่าสนใจ ข้อมูลปลา และ แหล่งซื้อขายในประเทศไทย

List เว็บ อโรวาน่าที่สามารถหาได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับปลาและร้านขายปลา

เว็บอโรวาน่าทั่วไป

http://www.aro4u.com/ Aro4u.com บ้านปลามังกรหลังเล็กแต่อบอุ่น
http://www.arowanacafe.com/ arowanacafe.com อโรวาน่าคาเฟ่
http://arowana.pantown.com/ อโรวาน่าแพนทาวน์
http://www.siamarowanaclub.com/ Siam Arowana Club สยามอโรวาน่าคลับ
http://www.ninekaow.com/ เปิดฝาตู้คุยกับนายเก๋า เวบไซต์สุดฮิพ สำหรับ คนรักปลาสวยงาม
http://arowana-thailand.com/ อโรวาน่าไทยแลน Arowana Thailand
http://www.arowanasociety.com/ Society Arowana
 http://www.arowana-asia.com/ เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว

ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/


เว็บร้านจำหน่ายอโรวาน่า

http://www.arowanamania.com/ ปลามังกรผ่อนได้ อโรวาน่าผ่อนได้
http://www.arowana-world.com/ Arowana-World
http://www.taphadshop.com/ ร้านตะพัดอโรวาน่า
http://www.showaarowana.com/ โชวะอโรวาน่า ShowaArowana
http://www.dreamfisharowana.com/ ดรีมฟรีช DreamFish Arowana

เว็บฟาร์มอโรวาน่า ต่างประเทศ
http://www.blcarowana.com.my/   BLC Arowana Farm & Trading  จากมาเลย์เซีย
http://www.dreamfish.com.sg/ Dreamfish Incorporated Singapore จากสิงคโปร
http://www.sianlon.com/ ASIA AROWANA - SIANLON LEGEND จากมาเลเซีย
http://www.qianhu.com/ Qian Hu - one  stop shop for all your aquarium needs.  จากสิงคโปร
http://www.kimkang.com.my/ KIM KANG AQUACULTURE SDN BHD จากมาเลเซีย
http://www.arowana.com.sg/ Panda Aquatic Centre Singapore 欢迎您来到庞大水产中心 จากสิงคโปร
http://www.imperialarowana.com/ Imperial Arowana Breeding Farm Pte Ltd จากสิงคโปร

วันจันทร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2553

อโรวาน่าแดงอินโดนีเซีย (Red Arowana)


อโรวาน่าแดง Red Arowana ปลาอโรวาน่าแดงที่มีขายกันในบ้านเรามีที่

มาจากหลายแหล่งน้ำ ในทางตะวันตกของกัลลิมันตันในประเทศอินโดนีเซีย จัดเป็นสายพันธุ์อะโรวาน่าเอเชียที่ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจากสีสันอันสวยงาม และราคาถูกลงมาหน่อยหากเทียบกับทองมาเลย์ เมื่อปลาชนิดนี้มีขนาดเล็กชายครีบหางและอกริมฝีปากจะออกเหลืองแดง แต่เมื่อโตเต็มที่เกล็ดปลาจะมีสีที่แดงเข้ม ตามเหงือกก็๋จะออกสีแดงเช่นกัน ด้วยลักษณะดังกล่าวนี้ทำให้อโรวาน่าแดงชนิดนี้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก

ส่งผลให้ครั้งหนึ่งราคาของอโรวาน่าแดงขึ้นสูงกว่าทองมาเลย์ แต่หลังจากนั้นผู้เพาะเลี้ยงแห่กันผลิต เลยทำให้ราคาตกลงมา

อโรวาน่าแดง แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ คือ

แดงส้ม (Orange Red)
แดงเลือดนก (Blood Red)
แดงพริก (Chilli Red) / แดงส้ม (Orange Red) / แดงอมทอง(Golden Red)


ในปัจจุบันปลาอะโรวาน่าแดงทั้ง 4 สายพันธุ์ ได้ถูกเรียกรวมๆทั้งหมดว่า Supet Red ซึ่งก็ไม่ค่อยถูก

นักทีเดียวที่จะเรียกดังกล่าว เนื่องจากปลาอโรวาน่าแดงประเภท Orange Red และ Golden Red
เวลาโตจะเห็นได้อย่างเด่นชัดว่าสจะไม่ีแดงเข้มเท่า 2 สายพันธุ์แรก

ความแตกต่างดังกล่าวนี้ พ่อค้าปลาได้ตั้งชื่อเรียกปลาอโรวาน่าชุดแรกว่าๆที่มีการส่งออกว่า Chilli Red และ Blood Red โดยที่จะใช้ความเข้าของสีแดงและรูปทรงของปลาในการจำแนกปลากทั้งสองชนิด
ออกจากกัน ในปลาที่โตเต็มที่แล้ว Chilli Red จะสีแดงคล้ายพริก ในขณะที่ Blood Red จะสีแดงออก
สีเลือด Chilli Red จะมีตาที่ค่อนข้างใหญ่และหางมีรูปร่างคล้ายเพชร ในขณะที่ Blood Red ตาจะมี
ขนาดเล็กกว่า ขาวกว่า และรูปแบบหางจะกลมเปิดกว้างมากกว่า บางครั้งขอบตาบนจะแตะระดับ ส่วน
บนของหัวพอดี

ในขณะที่ปลาทั้งสองมีขนาดเล็กจุดที่ใช้แยกแยะคือ ฐานของเกล็ด CHilli Red จะมีเกล็ดงอกออก
เหลือบเขียว และเป็นเงาแวววาว ในขณะที่ของ BloodRed จะแวววาวคล้ายทอมาเลย์มากกว่า
การพัฒนาสีของ Chilli Red จะช้ามากหรือพูดง่ายๆ ก็คือ Chilli Red จะขึ้นแดงเต็มที่ช้ากว่าของ
Blood Red 1-2 ปี ซึ่งก็ต้องลุ้นกันหน่อยสำหรับการรพัฒนาสีแดงของ CHillit Red โดยเฉพาะ
ตัวที่ขอบเกล็ดมีสีแดงไม่หนา ส่วนรูปแบบการพัฒนาสีบนเกล็ดปลาทั้งสองชนิิดจะคล้ายกัน คือ
จะเปลี่ยนไปเป็รสีส้มก่อนเป็นสีแดง แต่ก็เอาแน่นอนไม่ได้ ซึ่งได้รับการเลี้ยงดูมากกว่า 8 ปี แล้ว
สียังไม่ออกจะกระท่งแค่ช่วงเดือนเดียวที่ปลาเปลี่ยนสีจากสีซีดๆมาเป็นสีแดง สร้างความฉงนสน
เท่ห์แก่ผู้เป็นเจ้าของอย่างมากเรื่องนี้ก็สอนให้เรารู้ว่าหากรักจะเลี้ยงแล้วหล่ะก็ คุณต้องมีความอดทน เฝ้าทะนุถนอมเลี้ยงดูเค้าอย่างดีแล้ว สักวันหนึ่งปลาของคุณก็จะตอบแทนคุณด้วยสีสันอันสวยงาม


ส่วนอโรวาน่าแดง อีกสองชนิดที่เหลือ ที่เรียกว่า Organge Red และ Gold Red นั้นถึงแมว่า
ปลาจะโตเต็มที่แล้วสีจะไม่ออกแดง แต่จะอมทองหรือส้มทั้งตัว ชนิดทั้งสองนี้เป็นชนิดที่ราคาถูกกว่า
สองชนิดแรกในบรรดาปลาอโรวาน่าแดง สาเหตุของสีไม่ออกแดงอาจเกิดจากการผสมข้ามพันธุ์
ด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจที่ว่าราคาที่แพงของพ่อแม่พันธุ์ผู้เพาะเลี้ยงอาจต้องใช้ปลาเขียว หรือสีทอง
อ่อนมาผสม

ที่มา http://www.oknation.net/blog/print.php?id=241735
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

เรื่องของ crossback หรือ อโรวาน่า Cross Back (XB)

อะโรวาน่าทองมาเลย์ CROSS BACK อะโรวาน่าทองจากมาเลเซีย มีชื่อเรียกหลายแบบตามแหล่งที่พบ เช่น


ปาหังโกลด์มาลายันโบนีทัง(Malayan Bony

Tongue),บูกิทมีบูราาบลู,ไทปิงโกลด์เดนหรือ

เพียงเอ่ยว่า อะโรวาน่าทองมาเลย์



สาเหตุของการมีชื่อเรียกมากมายขนาดนี้

ก็เพราะว่าอะโรวาน่าชนิดนี้ สามารถพบได้ทั่วไปใน

มาเลเซีย ซึ่ง ปลาสวยงาม อะโรวาน่าทองจากมาเลเซีย

ทีี่่มาจากแต่ละแหล่งก็จะมีสีสันของ เกล็ดที่ต่างกันไป



ปลาอะโรวาน่าทองของมาเลเซียจัดเป็นปลาสวยงามอะโรวาน่าที่ีมีราคาแพงที่สุดในบรรดาปลาอะโรวาน่า

ด้วยกัน ทั้งนี้เพระปลาขนิดนี้จะให้ลูกน้อยแและในธณรมชาติหาได้ยากมาก

ทุกวันนี้มีเพาะเลี้ยงกันที่มาเลเซีย และสิงคโปร์เท่านั้น



อะโรวาน่าทองมาเลเซีย สามารถแบ่งได้เป็น 3 พวกใหญ่ คือ



- สายพันธุ์ที่ฐานเกล็ดเป็นสีน้ำเงิน หรือม่วง(Blue or Purple Based)

- สายพันธุ์ที่ฐานเกล็ดออกสีเขียว(Green Based)

- สายพันธุ์ที่ฐานเกล็ดออกสีทอง(Gold Based)



สำหรับปลาประเภท 1 และ 2 บางครั้งจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันเนื่องจาก สีน้ำเงิน หรือม่วงที่เรา

ขึ้นอยู่กับมุมสะท้อนที่เราดูปลาเลย ทำให้บางครั้งเราเห็นออกสีม่วง ทั้งที่ความจริงแล้ว ปลามาฐาน

เกล็ดสีน้ำเงิน สำหรับแบบที่ 3 หรือแบบที่มีฐานเกล็ดสีทอง แบบนี้จัดว่าเป็นสุดยอดปลาอะโรวาน่า

ทองมาเลเซีย เนื่องจากเมื่อปลาโตเต็มที่ ปลาจะมีสีสันเหลืองอร่ามดังทองคำเคลื่อนที่ ปลาชนิดนี้

ดูเหมือนจะเป็นอะโรวาน่าทองอะโรวาน่าทองมาเลเซียประเภทแรกที่สีทองจะอ้อมข้ามหลังได้เร็วกว่า

ปลาสวยงาม อะโรวาน่าสายพันธุ์อื่นๆ

ข้อมูลจาก http://www.sv-spicy2010.com/index.php?topic=1800.0

ขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

ทองมาเลย์ Cross Back Golden (XBACK) ลักษณะ

ทองมาเลย์ หรือที่เราเรียกว่า Xback ซึ่งก็มาจากคำว่า Cross Back Golden หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ "ทองข้ามหลัง" แต่บางคนอาจจะเรียกว่า Malayan Bonytongue ก็ได้นะครับ (เมืองไทยไม่ค่อยมีใครเค้าเรียกกันหรอกนะครับ)


แม้จะให้สีทองเฉกเช่นทองอินโด แต่ทองมาเลย์ก็ถือว่าเป็นปลาอะโรฯที่มีค่าตัวแพงที่สุดในสายพันธุ์อะโรฯทั้งหมด เหตุผลที่ทองมาเลย์เป็นปลาที่แพงที่สุด เพราะเป็นปลาที่ให้สีทองที่แวววาวดั่งทองคำแท้ ๆ ไม่ได้แค่ความแวววาวที่มีมากกว่าทองอินโด สีทองของทองมาเลย์ยังปรากฏให้เห็นในทุก ๆ แถวของเกล็ดไม่ว่าจะเป็นเกล็ดแถว 5 หรือ 6 ก็ตาม

ไม่ใช่แค่คุณสมบัติที่ถูกกล่าวในข้างต้นประการเดียว จำนวนลูกที่ได้แต่ละครอกก็ให้มีจำนวนน้อยกว่าทองอินโดพอสมควร และนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทองมาเลย์เป็นปลาอะโรฯที่มีราคาแพงที่สุด

แต่เดิมที...ทองมาเลย์จะเป็นปลาที่มีลักษณะหัวทู่ ๆ แบบปลาทู เครื่องครีบต่าง ๆ จะมีขนาดเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับตัว โดยปลาเป็นลักษณะโกลด์เบส(ทองแต่มีวงในเข้มดำ) หรือ ฟูลโกล์ด(ทองอร่ามทั้งตัว ไม่มีสีอื่นในวงในเกล็ดแซม) แต่ปัจจุบันเราจะเห็นทองมาเลย์ที่มีสีเบสต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบูลเบส หรือ กรีนเบส เป็นต้น และแน่นอน...หัวสปูนและครีบเครื่องที่ใหญ่ขึ้นก็สามารถพบได้ในทองมาเลย์ ทองมาเลย์ที่หลายๆ คนต้องการก็คือ thin frame blue base ซึ่งก็หมายถึงปลาทองมาเลย์ที่มีวงในสีน้ำเงินเข้ม ในขณะที่ขอบทองต้องบางที่สุดเท่าที่จะบางได้ ในขณะเดียวกันก็มีหลาย ๆ คนต้องการปลาทองมาเลย์ดั่งเดิมที่มีสีทองอร่ามทั้งตัว โดยไม่มีวงในสีอื่นแซม หรือที่เราเรียกว่า ฟลูโกลด์(Full Gold Xback)

ณ ปัจจุบันราคาปลาทองมาเลย์ตัวจ้อยมีราคาระหว่าง 45,000 ขึ้นไปจนถึงเป็นแสน ๆ บาท ขึ้นอยู่กับความพิเศษที่มีในปลาตัวนั้น ๆ เช่น เกล็ดเปิดสูงตั้งแต่เด็ก หรือเกล็ดเปิดข้ามหลังตั้งแต่เด็ก หรือ หัวมีประกายทอง เป็นต้น
การเลือกซื้อทองมาเลย์ ควรเลือกซื้อทองมาเลย์ตัวน้อยที่มีความสว่างแวววาวเป็นที่สุด เพราะนั้นหมายถึงความแวววาวดั่งทอง24kยามที่ปลาได้อายุในภายภาคหน้า เราจะไม่เลือกซื้อทองมาเลย์ที่มีสีตัวเข้ม ๆ ในตอนเล็กแต่ขาดความแวววาว แน่นอน...เกล็ดที่เปิดสูงก็เป็นลักษณะที่ดีเช่นกันแต่ก็ไม่ควรแลกมาด้วยค่าตัวที่แพงเกินเหตุ เกล็ดละเอียดใต้กระโดงหลังเป็นจุดสำคัญในการมองว่าทองมาเลย์ตัวนั้นจะข้ามหลังได้หมดจรดแค่ไหน เพราะไม่ใช่ว่าทองมาเลย์จะข้ามหลังหมดจรดทุกตัว

สำหรับท่านที่ต้องการทองมาเลย์บูลเบส เราจะมองที่สีกระโดงหลังและสีหางที่เข้ม ครีบอกออกสีแดงส้ม ในขณะที่ปลาโกล์ดเบสจะมีสีครีบอกที่อ่อนกว่า ออกโทนเหลือง รวมทั้งสีหางที่อ่อนกว่าเช่นกัน

และปัจจุบันก็ต้องพูดว่า ทองมาเลย์ชั่งมีสีเบสที่หลากหลายเสียเหลือเกิน ถ้าต้องการมีครบทุกเบสสี จำนวนตู้ที่มากใบก็ย่อมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เหตุผลที่ทองมาเลย์มีเบสสีหลากหลายมากขึ้น ครีบเครื่องใหญ่ขึ้น รวมทั้งมีสปูนเฮดนั่นก็เป็นเพราะทางฟาร์มได้นำเอาทองมาเลย์มาบรีดกับทองอินโดนั้นเอง แต่ไม่ใช่เป็นการบรีดชั้นเดียว โดยหลักแล้ว...ทางฟาร์มจะต้องบรีดจนกระทั้งปลาตัวนั้นมีเลือดของทองอินโดแค่ 1/16 เท่านั้นเอง (รวมบรีด 4 ชั้น)

แต่ในโลกแห่งความจริง...หลาย ๆ ฟาร์มมีการนำเอาปลาที่บรีดน้อยชั้นกว่าที่กล่าวมาออกนำมาขาย หรืออาจจะกล่าวได้ว่า...ปัจจุบันเกรดของทองมาเลย์ถูกซอยมากขึ้น มีมาเลย์เกรดธรรมดา เกรดพิเศษ เกรดโครตพิเศษ ซึ่งถ้าเทียบกับทองมาเลย์ที่ผมซื้อสมัยเริ่มเลี้ยง(2544) ก็ต้องพูดว่าทองมาเลย์ธรรมดา ๆ ในตอนนั้นสวยกว่าทองมาเลย์เกรดธรรมดาในปัจจุบัน รวมทั้งค่าตัวก็ถูกกว่าปัจจุบันเช่นกัน

ที่มา pantown.com
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

อะโรวาน่าทองมาเลย์ CROSS BACK

ทองจากมาเลเซีย มีชื่อเรียกหลายแบบตามแหล่งที่พบ เช่น
ปาหังโกลด์มาลายันโบนีทัง(Malayan Bony Tongue),บูกิทมีบูราาบลู,ไทปิงโกลด์เดนหรือ
เพียงเอ่ยว่า อะโรวาน่าทองมาเลย์สาเหตุของการมีชื่อเรียกมากมายขนาดนี้
ก็เพราะว่าอะโรวาน่าชนิดนี้ สามารถพบได้ทั่วไปในมาเลเซีย ซึ่ง ปลาสวยงาม อะโรวาน่าทองจากมาเลเซียทีี่่มาจากแต่ละแหล่งก็จะมีสีสันของ เกล็ดที่ต่างกันไป

ปลาอะโรวาน่าทองของมาเลเซียจัดเป็นปลาสวยงามอะโรวาน่าที่ีมีราคาแพงที่สุดในบรรดาปลาอะโรวาน่าด้วยกัน ทั้งนี้เพระปลาขนิดนี้จะให้ลูกน้อยแและในธณรมชาติหาได้ยากมาก

ทุกวันนี้มีเพาะเลี้ยงกันที่มาเลเซีย และสิงคโปร์เท่านั้น อะโรวาน่าทองมาเลเซีย สามารถแบ่งได้เป็น 3 พวกใหญ่ คือ

- สายพันธุ์ที่ฐานเกล็ดเป็นสีน้ำเงิน หรือม่วง(Blue or Purple Based)
- สายพันธุ์ที่ฐานเกล็ดออกสีเขียว(Green Based)
- สายพันธุ์ที่ฐานเกล็ดออกสีทอง(Gold Based)

สำหรับปลาประเภท 1 และ 2 บางครั้งจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันเนื่องจาก สีน้ำเงิน หรือม่วงที่เรา
ขึ้นอยู่กับมุมสะท้อนที่เราดูปลาเลย ทำให้บางครั้งเราเห็นออกสีม่วง ทั้งที่ความจริงแล้ว ปลามาฐาน
เกล็ดสีน้ำเงิน สำหรับแบบที่ 3 หรือแบบที่มีฐานเกล็ดสีทอง แบบนี้จัดว่าเป็นสุดยอดปลาอะโรวาน่า
ทองมาเลเซีย เนื่องจากเมื่อปลาโตเต็มที่ ปลาจะมีสีสันเหลืองอร่ามดังทองคำเคลื่อนที่ ปลาชนิดนี้
ดูเหมือนจะเป็นอะโรวาน่าทองอะโรวา่น่าทองมาเลเซียประเภทแรกที่สีทองจะอ้อมข้ามหลังได้เร็วกว่า
ปลาสวยงาม อะโรวาน่าสายพันธุ์อื่นๆ

จริงๆแล้วในปัจจุบันการแยกประเภทดังกล่าวไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เนื่องจากการผสมข้ามสายพันธุ์
โดยผู้เพาะเลี้ยง ทำให้สายพันธุ์แทๆ ของอะโรวาน่าทองมาเลเซีย หาได้น้อยลงทุกที แค่ถึงกระนั้น
ก็ตามการผสมข้ามสายพันธุ์ก็ได้ทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ๆของอะโรวาน่าทองมาเลเซียขึ้นมา ซึ่งมีชื่อ
ทางการค้าว่า Platinum White Golden และ Royal Golden Blue Arowana เป็นต้น ปลา
อะโรวาน่าทั้งสองสายพันธุ์จะข่ยได้ราคาดีมาก เนื่องจากเป็นที่ต้องการของประเทศญี่ปุ่น

ที่มา http://www.samud.com/
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

อุปกรณ์ การเลี้ยงปลาอโรวาน่า Arowana accessory

ลองมาดูรูปอุปกรณ์บางอย่างนะครับ
รูปแรก เป็นปั๊มลมแบบสำรองไฟได้ประมาณ 10 ช.ม.กรณีไฟฟ้าดับ เครื่อง
จะทำงานจ่ายลมอัตโนมัติครับ


ท่อ PVC สำหรับเกี่ยวขอบตู้เพื่อเติมน้ำ โดยต่อกับสายยางจากก๊อกน้ำ ไม่

ต้องมาจับให้เมื่อย มีวาวด์ปิดเปิดสะดวก ไม่ต้องวิ่งไปๆมาๆ



จานหินทราย เพื่อเพิ่มอากาศในตู้ปลา สายลม และจุ๊ปเกาะสายลม

วิตามินสำหรับปลามังกร

จุลินทรีย์และแบคทีเรียสายพันธุ์ที่ช่วยย่อยสลายของเสีย


มาลาไคร้ท เพื่อฆ่าเชื้อโรค ต้องระวังอย่าไปสัมผัสมันนะครับ มันเป็นสารก่อ
มะเร็งด้วย
เซรามิกริงค์
 หินภูเขาไฟ

ยากำจัดคลอรีนแบบผง
 น้ำยาปรับสภาพน้ำอย่างดี

แผ่นกรองใต้พื้นกรวด

ฮีทเตอร์
ที่มา pantip.com
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

วันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จำนวนหลอดไฟที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงปลาสีแดง ( อโรวาน่าแดง Red Arowana )

เพื่อนนักเลี้ยงปลาหลายท่านที่เลี้ยงปลาสีแดง เมื่อซื้อมาเลี้ยงก็ต้องตั้งความหวังไว้ว่าปลาของตัวเองนั้น ต้องแดงสู้ของเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ได้ แสงจากหลอดไฟเป็นหนึ่งในปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้ปลาพัฒนาสีของตัวเองดีขึ้น


ที่ว่าเป็นเพียงแค่ 1 ในปัจจัยหลายอย่างนั้นก็เพราะว่าเราไม่สามารถใช้ไฟอย่างเดียวเพื่อให้ปลาแดงได้ ปัจจัยอื่น เช่น สายพันธุ์ อาหาร สภาพแวดล้อมในตู้ อุณหภูมิ สภาพทางเคมีของนำในตู้ เช่นความเป็นกรด-ด่าง หรือปริมาณไนท์ไตรท์ หรือกระทั่งสิ่งรบกวนต่าง ๆ ภายนอกตู้เช่น หมา แมว หรือกระทั่งเด็กที่มาเล่นอยู่หน้าตู้ ทุกอย่างนี้ล้วนแต่มีผลต่อการพัฒนาสีของปลา

ผมจะกล่าวถึงเฉพาะส่วนของหลอดไฟก่อน ว่าปริมาณที่ควรใช้อยู่ที่กี่หลอดต่อตู้ดี พื้นฐานทุกอย่างทั้งหมดนั้น อยู่ที่ความพอดีครับ มากไปหรือน้อยไปก็ไม่ดี แล้วเท่าไหร่หละถึงจะพอดี

จากการทดลองของผมเอง โดยการใช้หลอดไฟ 17000 K ทดลองกับปลาอโรวาน่าแดงขนาดประมาณ 12 นิ้ว ในตู้แบ็คกราวด์สีดำรอบด้าน ยกเว้นด้านหน้า ระบบกรองเป็นกรองใต้ตู้ เปลี่ยนน้ำอาทิตย์ละครั้ง ในปริมาณ 10%

เนื่องจากในตอนแรกเลยตู้ที่ใช้เลี้ยงนี้มีปัญหาเรื่องซิลิโคนเสื่อมสภาพ เริ่มมีอาการล่อน เห็นเป็นฟองอากาศ ผมเลยตัดสินใจให้ช่างมาซ่อมดีกว่า ดังนั้นปลาตัวนี้จึงต้องย้ายมาอยู่ในตู้ใส ทำให้สีที่เคยมีแววดี กลับถอดหมดจนซีด ซึ่งผมว่าก็ดีครับ ถือว่าเป็นการนับ 1 กันใหม่เลย

ขนาดตู้ 72 x 30 x 30 นิ้ว ผมใช้หลอด 17000 K ขนาด 36 วัตต์ จำนวน 2 หลอด ความยาวของหลอดแค่ 48 นิ้ว เมื่อเทียบกับขนาดตู้ 72 นิ้ว ทำให้เหลือเงาดำที่ของทั้ง 2 ด้านของตู้ ซึ่งผมว่าเป็นการดีต่อปลา เพราะว่าผมเปิดไฟตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าปลาต้องการหลบแสงบ้าง ก็ยังมีบริเวณเงานั้นให้หลบบ้าง

จากการทดลอง เวลาผ่านไป 10 วัน ปลามีการพัฒนาของสีดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ที่ผ่านมาผมมีการทดลองในตู้ขนาดต่างจากนี้หลายใบด้วยกัน ทำให้พอทราบว่า ตู้ขนาดความกว้างไม่เกิน 20 นิ้วนั้น เราใช้หลอดไฟ 1 หลอด แสงของหลอดก็สามารถกระจายได้เต็มพอแล้ว ตู้ขนาด 20 - 30 นิ้วนั้น ควรจะใช้ 2 หลอด ส่วนตู้ที่มีขนาดความกว้างมากกว่า 30 นิ้วขึ้นไป จำนวนของหลอดก็ควรมากขึ้น 1 หลอดต่อความกว้าง 10 นิ้ว

อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ต้นว่าพื้นฐานทั้งหมดอยู่ที่ความพอดี ไม่ใช่เปิดไฟ 2 หลอดแล้วสีของปลาดีขึ้นภายใน 10 วัน ถ้างั้นเปิดมันซัก 10 หลอดเลย เผื่อว่า 2 วันมันจะแดง มันไม่ใช่แบบนี้นะครับ ในสมัยก่อนยังไม่มีเทคนิคแบบนี้มาช่วย คนเลี้ยงปลาทั่วไปก็เลี้ยงในตู้ขาวนี่หละ แถมยังมีปะการังปูพื้นอีกต่างหาก สมัยนั้นต้องทนเลี้ยงปลากันแบบไม่มีสีไปหลายปี กว่าที่ปลาจะแดงขึ้นมาได้
ตอนนี้เรามีเทคนิคใหม่ ๆ เพิ่มมาเรื่อย ๆ เชื่อถือได้บ้าง ไม่น่าเชื่อถือบ้าง ก็ขอให้ทุกท่านนำมาปรับใช้อย่างเหมาะสมกันต่อไปครับ

ที่มา  http://www.champaquarium.com/
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

Arowana In japan ( อโรวาน่า ประเทศญี่ปุ่น) ตอนที่ 1

เมื่อเอ่ยถึงปลาที่มีท่วงท่าว่ายน้ำสง่างามเกล็ดสีทองและสีแดงตัดกับผิวน้ำและแสงไฟแวววับ เชื่อว่าทุกคนคงต้องคิดถึงปลามังกรไม่มากไม่น้อย ไม่ว่ากระแสปลามีขึ้นหรือลงอย่างไร เจ้าปลามังกรนี้ ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ตลอดมา ในประเทศแถบเอเชียถือว่า ปลามังกร หรือ ที่ชาวต่างประเทศเรียกว่า Arowana เป็นปลาที่นิยมอย่างมากชนิดหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน ดังนั้นจึงมีหนังสือและWebsiteสำหรับ ปลาอโรวาน่าโดยเฉพาะออกมามากพอสมควร สำหรับเรื่องราวการเขียนครั้งนี้ จุดประสงค์ต้องการให้ผู้รักการเลี้ยงปลาอโรว่าน่า ชาวไทยทุกท่าน ได้มีข้อมูลการเลี้ยงปลาของชาวญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเป็นประเทศที่มีการศึกษาและวิจัย เกี่ยวกับปลาชนิดนี้ มากพอควร เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนข่าวสารและทัศนคติอีกมุมมองในการเลี้ยงปลาของเพื่อนชาวไทยและชาวญี่ปุ่น วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆ มาเยี่ยมชมเพื่อนชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่ง ซึ่งเลี้ยงปลาอโรวาน่าแบบรวม และมีการจัดระบบตู้ ของเพื่อนต่างแดนคนนี้ ว่ามีระบบการจัดตู้ปลาอโรวาน่า ปลาที่เขารักอย่างไร



เปิดตู้ข้างล่างออกมามาดูระบบกรองล่างกัน ไม่ต่างจากบ้านเราเท่าไร

ขนาดกรองล่าง 600×500×450MM แบ่งกรองเป็น 3 ช่อง
วัสดุกรองที่ใช้ ใยกรอง Glass ring 40 L Seramic 20 L
มาดูกันครับ เพื่อนชาวปลาดิบของเรา มีขุมกำลัง ขนาดไหนกันบ้าง

ขนาดตู้ 1800×600×600 MM. ทำจากอคิริก ระบบกรองล่างเพิ่มระบบOver flow
หลอดไฟจำนวน 18W×6 หลอด กล่องหลอดไฟทำจาก Aluminium ความยาว 1800 cm.
เท่ห์ไม่เบาเลย รางไฟสไตล์นี้

Pump มี Valve ปิด เปิด ทางน้ำ

Air pump ขนาด 40L/min

ไฟส่องตอนกลางคืน ขนาด 60W ติดผนังส่องตู้ปลา เวลาเปิดประมาณ 1.00 am - 6.00am

ด้านหน้า จะเห็นโซ่ ที่แขวนรางไฟโดยยึดติดฟ้าเพดาน
สร้างบรรยากาศกันน่าดู จริงเพื่อนเราคนนี้
 
Theromostat control heater 300w*2


ชุดควบคุม Heater แบบนี้ บ้านเรา หาไม่ค่อยมี น่ะ หน้าจอเป็น Digital

บอกอุณหภูมิเลย

คุณภาพน้ำ PH 6.8   ค่านำไฟฟ้า 120~150 MICRO SIEMENS


KH1 GH1 NITROUS ACID(NO2) ต่ำกว่า 0.3 mg/l , NITRATE (NO3) 2-5 mgNo3/L

อุณหภูมิน้ำ ฤดูร้อน 30 องศา ฤดูหนาว 28 องศา

การเปลี่ยนน้ำ เปลี่ยน  24 ชั่วโมง โดยระบบ Overflow ประมาณ 200 L ต่อวัน
 
ที่มา www.champaquarium.com
ขอขอบคุณ http://www.hime-shopping.com/
เว็บอโรวาน่า เว็บน้องใหม่พร้อมให้บริการแล้ว http://www.arowana-asia.com/

ปลามังกร ข่าวสารจากทุกมุมโลก

Add to Google Reader or Homepage